ในพม่า​มีสถานที่​ไม่กี่แห่ง​ซึ่ง​ยังมีสัตว์​ใกล้​สูญพันธุ์​ ลูกหลาน​แห่ง​ธรรมชาติ​พำนักอยู่​และ​พืช​และสัตว์​ธรรมชาติ​กำลังพำนักอยู่ท่ามกลางเทือกเขา​สูงๆในพม่า​  ในสถานที่​เหล่านั้น​รัฐฉิ่นเป็นที่รู้จัก​กันดีกว่า​เป็น​รัฐที่อัศจรรย์​ของพม่าซึ่ง​ชนเผ่า​ฉิ่นอาศัย​อยู่​อย่าง​กลมกลืน​กับธรรมชาติ​มาก​  เราจะพูดถึง​ทริป​ที่สุ​ดระทึก​ไปที่​ภูเขา​วิโตยียา​Victoria ซึ่ง​ภาษาฉิ่นเรียก​ว่า​ Khonuanthung ซึ่ง​เป็น​ราชินี​แห่ง​ความงาม​ตาม​ธรรมชาติ​ในรัฐ

Legend of Khonuamthung

Khonuanthung ซึ่ง​เป็น​ราชินี​แห่ง​ความงาม​ตาม​ธรรมชาติ​ตั้ง​อยู่​ใน​รัฐ​ฉิ่น​ สูงประมาณ​10700 ฟุตจาก ระดับ​น้ำทะเล​และเป็น​ภูเขา​ที่สูงที่สุด​ระดับสามของพม่า​ ในสมัยอาณานิคม​ เจ้าหน้าที่​เรียก​ภูเขา​นี้ว่า​ Mount Victoria ซึ่ง​ตั้งชื่อ​ตาม​ Queen Victoria  ในภาษาฉิ่น​ ภูเขา​เรียก​ว่า​ Khonuanthung​ และ​ชื่อ​พม่าของภูเขานี้​เรียกว่า​ Nat Ma​ Taung แต่ชุมชน​ฉิ่นอาจจะ​ไม่ชอบชื่อ​พม่าเท่าไหร่

ในภาษาฉิ่น kho หมายถึง นะ (วิญญาณ นางฟ้า) Nuam หมายถึง ผู้หญิง และ ส่วน Thung หมายถึง ภูเขา ดังนั้น ชื่อภูเขานั้น หมายความว่า ภูเขาแห่งนางฟ้า  ภูมิภาค Khonuamthung ได้รับประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๑๙๙๗ และ ได้รับการยืนยัน เมื่อ วันที่ ๒  ธันวาคม พ.ศ.๒๐๑๐ เมื่อถึง วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๐๑๒ ได้รับประกาศเป็น อุทยานมรดกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันตกเฉียงใต้(อาเซียน) แม้ว่า ภูเขาวิคตอเรียเป็น ภูเขาน้ำแข็งที่สูงสุด อันดับสามของพม่า แต่เป็นภูเขาที่สูงสุดในระหว่างภูเขาดิน ภูเขา Khonuathung มีความโดดเด่นเป็น ภูเขาดิน ซึ้งแตกต่างจากภูเขาน้ำแข็งเช่น ภูเขาKhakaborazi และ Saramati ในรัฐฉิ่น

มาชมพระราชินีแห่งความงามตามธรรมชาติภูเขาขอนแก่น

วิธีจะไปเบสแคมป์และ เดินป่าเขา Khonuamthung

มีสองเส้นทางที่จะขึ้นภูเขา Khonuamthung ได้คือ เส้นทาง Kanpetlet และ เส้นทาง Min Tut เส้นทางแรก จะเป็นเส้นทางสำหรับนักเดินป่าใหม่ๆ

เส้นทาง Kan Pet Let , เมือง Kan Pet Let

นั่นคือ เมือง Kanpetlet ซึ่งเป็น เมืองเล็กๆที่มีความน่าอัศจรรย์ของภูเขา Khonuamthung และ ตั้งอยู่ตามเทือกเขา West Yoma และ สูงประมาณ ๖๒๗๔ ฟุต จากระดับนำ้ทะเล  เมือง Kanpetlet ตั้งอยู่ ๑๒ ไมล์ จากจังหวัด Yaw เมือง Saw และ หลังจากผ่านถนนภูเขาโค้งหลายเส้น ก็ จะเห็นเมืองเล็กๆที่สวยงาม ซึ่ง ประดับประดาด้วย ดอกเชอร์รี่ ดอกไม้พื้นเมืองตามฤดูกาล และ มีต้นสนหลายต้นที่ปลูกไว้เป็นเรียงๆ

มีกล้วยไม้หลายพันธุ์ที่มีสีหลากหลาย และเป็นที่สมบัติซ่อมเร้นสำหรับคนที่รักกล้วยไม้ หากดูภาพพาโนรามาจากหน้าผาภูเขา สามารถเห็น ร่มภูเขาและแสงดวงอาทิตย์ มีความหลากหลายตามบรรยากาศท้องฟ้า นอกจากนั้น สามารถลิ้มรสชาติความงามของ ลำธาร เรียกว่า Chi  ซึ่งเป็นลำธารโค้งเล็กๆ ที่ไหลผ่านระหว่าง หุบเขาลึก ก้อนหินขนาดใหญ่ๆ และ  ตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก สามารถชมทะเลก้อนเมฆที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับภาพวาดของสิ่งที่มีชีวิตบนท้องฟ้า

คุณสามารถไปเที่ยว สำรวจ บ้านแบบเดิมของชาวฉิ่น ในหมู่บ้านหลายแห่ง ซึ่ง มี ผู้หญิงสักบนหน้า อาศัยอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง  นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ไปเที่ยว สมานที่แห่งหนึ่ง ซึ่ง หญิงชาวฉิ่น เป่าขลุ่ยด้วยจมูก และไปเที่ยว น้ำตก Kaw Laung ด้วย

คุณจะไปที่ภูเขาจาก Kan Pet Let ได้อย่างไร?

หากคุณมีแผนจะขึ้นภูเขา ยิ่งเช้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี คุณต้องตื่นประมาณ ตี๔ ถ้าอยากได้ชม วิวพระอาทิตย์ขึ้น จากที่สูงระดับน้ำทะเท ๑๐๐๐๐ ฟุต คุณนั่งรถไปได้ถึง 10 ไมล์ แคมป์ จากเมือง Kan Pat Let  หรือ ให้โรงแรมเตรียมมอเตอร์ไซค์ก็ได้ สำหรับนักเดินป่าใหม่ๆ เส้นทาง Kan Pet Let นั้นเหมาะที่สุด เส้นทางจาก Kan Pet Let ถึง ยอดเขา Nat Ma Taung เป็นเส้นทางการค้า และไม่จำเป็นต้องใช้เส้นทางปีนเขาแบบเดิม ไปสู่ เบสแค้มป์ ซึ่งอยู่ห่างประมาณ ๒๐๐๐ ฟุตจากปลายภูเขา คุณสามารถนั่งรถจักรยาน หรือ รถยนต์ และ เส้นทางที่เหลือราบรื่นมาก ดังนั้นคุณสามารถเดินได้อย่างสบายไปตามเส้นทางสู่ไปยอดเขา จะใช้เวลาประมาณ ๒ ถึง ๕ ชั่วโมง กว่าจะถึงยอดเขา ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของตัวเอง  โชคดีที่ไม่มีปัญหาอะไร  มันเป็นเส้นทางเดินธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางที่ง่าย มันทำให้การไหลเวียนโลหิตรวดเร็วขึ้นแล้วเหงื่อจะไหลออกมาจากทั้งตัว ซึ่งไม่สามารถใส่เสื้อผ้าหนาๆได้ ในระหว่างการเดินทาง ในที่สุด คุณจะสำเร็จในการเดินยอดเขา และ ความรู้สึก เหนื่อยๆ ทั้งหมด จะหายไปทันที เมื่อคุณเห็นทิวทัศน์อันสวยงามตอนพระอาทิตย์ขึ้น  อีกอย่างหนึ่ง คุณสามารถนั่งมอเตอร์ไซค์ไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่บนยอดเขาได้ และ ค่ามอเตอร์ไซค์ อยู่ที่ประมาณ ๕๐๐๐ จ๊าต

หากคุณไม่ค่อยคุ้นเคยกับการนั่งมอเตอร์ไซค์ไป คุณสามารถเลือกการเดินที่น่าตื่นเต้นได้ คุณอาจจะรู้สึกกลัวๆ และ สวดมนต์พระ ตลอดทาง มันอาจะเป็นความดีเช่นเดียวกับการสวดมนต์ จะได้รับบุญกุศลมากมายสำหรับเราเอง มีคำพูดว่า ถนนที่ยากลำบากจะนำไปสู่จุดปลายทางที่สวยงาม ดังนั้น มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง อย่างไงก็ตาม หน้าผาบางที่และ หุบเขาลึๆ ทำให้เราตกใจเหมือนหัวใจกำลังจะหยุด สำหรับคนขับมอเตอร์ไซค์ เขาเผชิญหน้ากับความเสี่ยงแบบนี้ ทุกวัน จนทำให้เป็นอันตรายอาชีพ สำหรับพวกเขา มีกฎที่ยังไม่ได้กำหนดเป็นทางการ แต่เป็นความเข้าใจว่า เราต้องให้ความสำคัญกับ คนขับมอเตอร์ไซค์ที่ลงมาด้วยความเร็วสูง  สำหรับคนขับที่จะขึ้น เขาต้องท้าทายความดึงดูดโลก แต่คนขับที่ลงมา ต้องจัดการแรงกระตุ้นที่สูงมาก ที่เกิดมาจาก รวมน้ำหนักและแรงทั้งหมด ซึ่งลงมาอย่างอิสระ ดังนั้นเราจึงขึ้นไปโดยใช้การเดินและ ส่วนกลับ เรานั่งมอเตอร์ไซค์ลงมา อย่างที่คุณรู้ เราเป็นผู้หญิงจากมัณฑะเลย์ จึง ลังเลที่จะนั่งด้านหลังมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเราได้รับดูแลวัฒนธรรมดั้งเดิมของพม่าเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เราลังเล อับอาย จะจับเอว หรือ ถือ ผู้ชายแปลกหน้า แม้กระทั่งสถานการณ์เช่นนี้ อีกอย่างนึ่งก็คือ ผู้หญิงบางคน ขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น และ ไม่คุ้นเคย ถือหรือคว้าหลังหรือไหล่ของคนขับ และ ได้ยินเสียงตะโกนอย่างตกใจ  ตอนลงมาจากยอดเขา คุณสามารถขอให้คนขับจอดสถานที่สวยๆและ ถ่ายภาพได้ ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติขับมอเตอร์ไซค์เองขึ้นเขา ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์สำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ หนึ่งหมื่นจ๊ากเท่านั้น

เส้นทาง Min Tut , เมือง Min Tut

เมือง Min Tut ซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีแถวภูเขาสูงๆ เป็นเมือง เอกลักษณ์และ แต่งต่างจากวิว Kan Pet Let เราสามารถรู้สึกกับบรรยากาศป่าที่ไม่มีมลพิษ และ ชมต้นเชอรี่ตที่ปลูกไว้เป็นเรียงๆ ตามถนนเมือง มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักเดินทางที่มองเห็นถนน ที่สร้างขึ้นในรูปแบบเลี้ยวโค้ง ตามภูมิประเทศที่เป็นภูเขา คนขับรถต้องมีความชำนาญในการขับรถในเส้นทางที่มีภูเขา  มีสถานที่หลายๆแห่งให้ไปเยี่ยม เช่น วัด Taung Pu Lu  พิพิธภัณฑ์ฉิ่งเล็กๆ ตลาดกลางเมือง และมี จุดชมวิว ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก

จากเมือง Min Tut ถึง Aye Sakhan ซึ่งเป็นที่แคมป์กลางคืน คุณสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง ระหว่างทาง คุณสามารถเห็นบ้านชนเผ่าฉิ่นที่สร้างบนหน้าผาภูเขา และ พฤติกรรมของชาวฉิ่น ที่เป็นเรียบง่ายและเป็น ธรรมชาติมากที่สุด พวกเขาก็ ดีใจที่ต้อนรับแขก และ สามารถเห็นเด็กไปที่ไม่สะทกสะท้านกับความหนาวเย็นของสภาพอากาศ เผชิญหน้าโดยไม่ใส่ใจ และก็ สุนัขฉิ่งด้วย อยากแนะนำให้คุณควรเอา ขนมและ เสื้อผ้า ไปบริจาคให้พวกเขา เป็นของขวัญ ลำห้วยจิ (Chi) ที่มีชื่อเสียงในภาคใต้รัฐฉิน เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการพักผ่อน  เมื่อขึ้นจากกันลำห้วยจิ ไปถึง ๔๖๐๐ ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล จะถึง Aye Sakhan ซึ่งเป็นแคมป์กลางคืนสำหรับนักท่องเที่ยว  นอกจาก Aye Sakhan เป็น ขอบเขตใน Kan Pet Let  สถานที่ที่มีป่าที่เย็นสบาย มีหมอก และ ปกคลุมไปด้วยต้นสน หรือต้นไม้ใหญ่ๆ ที่เคลือบด้วยสาหร่าย และ มีเห็ดจำนวนมาก อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเส้นทางด้วย  หลังจากที่ผ่านมาวิวธรรมชาติเหล่านั้น คุณจะมาถึงทางแยก ซึ่งมีสูงประมาณ ๑๐๒๐๐ ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล

สิ่งที่คุณจะเห็นตลอดเส้นทางไปยอดเขา

ตลอดเส้นทาง ขึ้นไป จาก ๑๐ ไมล์ แคมป์ถึง ยอดเขา สามารถเห็น ฟลอราสีสันสดใสที่เป็นไม้หนา และมีพืชสลายสาหร่าย ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า Vom  นอกจากนี้ สามารถเห็น ต้นสาวันนาที่กำลังเต้นอยู่ในสายลมพัด และ มีต้น Rhododendron และ ต้นสน อยู่ตรงนั้น นอกจากจะเป็นการเดินป่าผจญภัย แต่ยังเป็น การเดินป่าทางศิลปะด้วย สิ่งแปลกๆที่ควรสังเกตดู ก็คือ สีต้นไม้กลายเป็นสีดำ และ กิ่งก้านของต้นไม้จะเป็นคว่ำ ในเดือนธันวาคม คุณจะเห็นสวนรุกขชาติ Rhododendron สีแดงสดใสและ มีดอกบัวภูเขาตลอดเส้นทาง คุณจะเห็นสวนรุกขชาติ Rhododendron สีขาวและสีเหลืองในฤดูร้อน  ในเมื่อสภาพอากาศหนาวเย็น คุณสามารถเห็นหญิงน้ำแข็งใบบ่อแช่แข็ง เนื่องจากยอดเขาส่วนใหญ่สูง ไม้เลื้อยที่สีสันสดใสบนพื้นดิน กระจัดกระจายในรูปแบบต่างๆเช่น ดาว ก้างปลา หรือ รูปแบบต่างๆ นอกจากวิวธรรมชาติของยอดเขาสูงๆซึ่งเหมือนกำลังกระจัดกระจายไปในขอบฟ้า จะโผล่ออกมาจากแพทย์ของเมฆสีขาว ในระหว่างทางไปสู่จุดสุดยอดภูเขา มีเมฆบางก้อนลอยขึ้นและลง เมื่อมองดูในขณะทีขึ้นหรือลงตามเส้นทาง

บนยอดเขาจะมีอะไรบ้าง

มีจุดสุดยอดสองที่ คือ เจดีย์และ พระพุทธรูปแบบรูปปั้นหินอ่อน  จุดตรงเจดีย์ เรียกว่า Wuthering Height มี สวนรุกขชาติ Rhododendron ต้นสูงอายุหลายต้น และ มี ต้นเลื้อยบนพื้นธรรมชาติ เป็นสิ่งอัศจรรย์ และ เป็นที่งดงามเหมาะสมสำหรับการถ่ายรูปหลายๆมุม ถึงแม้ว่าคนอื่นจะบอกว่า ตรงนั้นคือ ป่าทุ่งหญ้าที่เป็นราบ (Savanna Plateau) ซึ่งเต็มไปด้วยหญ้าแห้ง แต่สำหรับฉัน มันเหมือนสถานที่แห่งบทกวีที่ไม่เหมือนที่อื่น เวลาที่วางลงบนพื้นซึ่งตกแต่งด้วยดอกไม้ป่าสีขาวเป็น การพักผ่อนดีที่สุด สำหรับฉัน   ในช่วงกลางสัน เราไม่สามารถมองเห็นทะเลเมฆ แต่ ยังสามารถเห็นก้อนเมฆบางส่วนลอยอยู่ระหว่างภูเขา สำหรับการถ่ายภาพภาพพาโนรามาเป็นยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกมุมใด มีเจดีย์องค์หนึ่งที่เคยเล่ามาข้างบน เรียกว่า ซายัตเล็กๆ  Little Zayat ซึ่งเป็นอาคารสาธารณแบบโบราณพม่า อีกด้านหนึ่งของยอดเขา จะมีธงแห่งชัยชนะ นอกจากนี้ คุณ ยังสามารถไหว้พระพุทธเจ้า ในด้านเดียวกัน จะมีไม้เลื้อยสีต่างๆบนพื้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หายาก และ สามารถมองเห็นวิวสวยงามมากกว่าใครๆที่ดิด

เมื่อคุณกลับมาจากทริปเดินป่า คุณสามารถพักผ่อนที่โรงแรมได้ ถ้า คุณยังมีแรงพอที่จะไปเที่ยวอีก ก็ จะมีหมู่บ้านฉิ่งหลายแห่งที่ฐานภูเขา ซึ่งคุณสามารถเยี่ยมชมและ สำรวจได้  นอกจากนั้น ยังมี น้ำตก คอกแลง Kaw Laung ที่อยู่ในหุบเขา น้ำตกแห่งนี้ มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่น้ำตกลงมาจากที่สูง  จากนั้น ยังมีอะไรที่ให้ทำเยอะ คุณสามารถถ่ายรูปกับชาวฉิ่นที่เป่าขลุ่ยด้วยจมูก และ หญิงฉิ่นที่มีรอยสักบนใบหน้าด้วย  คุณได้ไปเที่ยวทั้งภูเขาและจังหวัด Min Tut ในวันเดียวกัน

คุณจะไปที่นั่นได้อย่างไรจากย่างกุ้ง

ถ้าคุณใช้รถบัส Shwe Mann Thu ไปถึง เมือง Chaug อาจจะใช้เวลาคืนเดียว และ คุณสามารถนั่งรถไปเมือง Kan Pet Let จากเมือง Chaug ใช้เวลาประมาณ ๔ ชั่วโมง เส้นทางถนน Pakokku ไม่ไหลนัก เมื่อเปรียบเทียบกับ เส้นทาง Chaug และ ถนนก็ดี ตลอดทาง  ถ้าคุณคิดจะไปจามเมือง Min Tut , ฉันขอแนะนำถนน Pakokuu มากกว่า  ไม่มีรถบัสตรงไป Aye Sakhan ซึ่งเป็น แคมป์กลางคืน จากเมือง Min Tut แต่มีมอเตอร์ไซค์และ เช่ารถคันเล็กๆได้ด้วย 

ไม่ว่าคุณใช้เส้นทางไหน สุดท้าย คุณจะถึงเมือง Saw แล้วคุณสามารถเลือกได้ว่า จะใช้เส้นทาง Kan Pet Let หรือ Min Tut ตามที่ตัวเองชอบ ตั้งแต่ออกมาจากเมือง Saw จะเริ่มเห็นถนนโค้ง หากคุณมีอาการป่วย คลื่นไส้หรือ อาเจียนในการเดินทางด้วยรถเป็นเวลานานๆ คุณควรเตรียมยาไปด้วย หากคุณมาจากพุกาม คุณสามารถเช่ารถ Pajero เป็นพิเศษ และ ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่า แต่ สะดวกสบายมาก

จาก เมืองมัณฑะเลย์

มีรถหลายคันตรงไปเมือง Kan Pet Let รถออกจาก มัณฑะเลย์ ประมาณ 9:00 น และ ถึง ประมาณ 6:00 น ตอนเย็น คุณสามารถพักผ่อนกลางคืนและ เริ่มเดินทางในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น หากคุณจะไปกับกลุ่ม สามารถจ้างการจัดเตรียมพิเศษ ราคาตั๋ว อยู่ที่ประมาณ 15,000 จ๊าก ถ้าต้องการจ้างทริปทั้งหมด จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200,000 จ๊าก

คุณจะพักที่ไหน?

ในเมือง Kan Pet Let คุณสามารถพักค้างได้ที่โรงแรมโซน (Hotel Zone) มีบังกะโลที่สวยงามและมีห้องต่างๆให้คุณเลือกได้ ในราคาที่เหมาะสม ค่าห้องอาจจะแตกต่างกันไปตามอำนวยการความสะดวก ราคาเริ่มจาก 60,000 จ๊าก สำหรับสองคน รวมอาหารเช้า และ มี ห้องเดียว ซึ่งราคาอยู่ที่ประมาณ ตั้งแต่ 5,000 จ๊าก ถึง 8,000 จ๊าก แต่ไม่มีห้องนำ้และ ห้องอาบน้ำ  หากคุณอยากสัมกับรสชาติธรรมชาติ คุณสามารถเลือกเช้าพักที่ Pine Wood Villa ซึ่ง สร้างด้วยต้นสน เลขที่โทรศัพท์. 09-896565584 สามารถมุมมองวิวสายงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกพร้อมกับกาแฟสักแก้ว และ เมื่อเดินไปในป่าสน สามารถมองเห็นพื้นหลังเป็น ทะเลเมฆ ยังมีโรงแรมอื่นๆใน โซนโรงแรม ได้แก่ โรงแรม Floral Breeze , Sky Palace Villa (0949203152) ,Mountain View Hill Resort (0949232963) และโรงแรม Win Unity แต่คุณต้องจองสองเดือนก่อนการเดินทาง ในเมือง Min Tut มีโรงแรมแค่ สองที่ คือ โรงแรม Mindat และ Mt .Oasis

คุณจะกินอะไร

ในเมือง Kan Pet Let ราคาอาหารฉิ่นแบบเดิมอยู่ที่ประมาณ 5,000 จ๊าก ความไม่เพียงพออาหารเป็นเรื่องสำคัญในรัฐฉิ่น เพราะเป็นที่ไกลมากจากตัวเมือง ดังนั้น สะดวกกว่าที่จะทานอาหารที่โรงแรม เมื่อคุณเดินป่า คุณต้องสั่งอาหารที่โรงแรมใน ตอนเช้า ก่อนจะออกเดินทาง และ เอาอาหารไปด้วย ถ้าคุณนำเครื่องดื่ม กาแฟ หรือบะหมี่สำเร็จรูป หรืออาหารแห้ง เอามาจากบ้าน มันสะดวกว่า ร้าบุฟเฟต์พม่าที่ตลาดกลางที่ Min Tut จะอร่อยกว่า อาหารในเมือง  Kan Pet Let ที่โน่น เนื้อวัว หายากมาก แต่อย่าพลาดที่จะลองชิมสลัดไก่แบบรสชาติฉิ่น จากเมือง Kan Pet Let

สิ่งที่ควรทำและ ไม่ควรระหว่างการเดินทาง

• มี อุณหภูมิ ลบ 6 องศาในตอนกลางคืน  ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอาผ้าหนา ถุงมือ ทุงเท้า ผ้าคาดผมด้วย บางคนที่โน้นไม่คุ้มเคยกับการดูแลสุขภาพ ดังนั้น คุณควรเอายาไปด้วย ถ้าเป็นคนกินจุ ก็ควรที่จะจัดเตรียมอาหารให้เพียงพอ อย่าจุดไฟในป่า ห้ามสูบุหรี่และ ทิ้งขยะในป่า อย่าเก็บดอกไม้ป่าและ สวมรุกขชาติ Rhododendron  ข้อห้ามทั้งหมดนี้ ต้องหลีกเลี่ยงอย่างมีสติ (ในระหว่างการเดินป่า เก็บขยะตามเส้นทาง การถ่ายรูปกลุ่มเป็น กิจกรรม ที่สนุกสนาน) มีห้องน้ำบนยอดเขา แต่ไม่สะอาดเท่าไหร่ ดังนั้นคุณควรนึกถึงการกิน สำหรับกลุ่มการกุศล สามารถบริจาคได้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และ สัดที่ Min Tut และ Kan Pat Let ฉันคิดว่าคุณได้ข้อมูลเพียงพอสำหรับการเตรียมการเดินทาง เรามาทำการเดินทาง Mount Victoria ,Khonuamthung นี้ ให้น่าจดจำ และ ทำความคุ้นเคยกับภาษาฉิ่น และ หมอกบางๆของสัญลักษณ์ของรัฐฉิ่นกัน