ความสุขที่เยี่ยมยอด ณ ดินแดนแห่ง Ngwe Taung Pyay

2019-09-04edit nyeinsuwai



บนภูเขายังมีชนเผ่าที่มีวัฒนธรรม มีความสวยงาม และมีตำนานเล่าขาน ยังคงอยู่รอดและลอดภัยจากการเปลี่ยนแปลงของยุคเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้น การมีภูเขาหลายลูก อาจเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบเหงาและความสันโดษ แต่ที่นั่นยังมีประเพณีดั้งเดิมที่น่าสนใจที่กำลังรอให้คุณไปสัมผัส ฉันอยากเชื้อเชิญพวกคุณมาเที่ยวรัฐกะยา (Kayah)  สถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนอาจหลงลืมไป



รัฐกะยา

รัฐกะยา (Kayah) อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศเมียนมา รัฐกะเหรี่ยงแดง (Karenni) ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการว่าเป็น หนึ่งในสหภาพเมียนมาตามรัฐธรรมนูญ 1947 และในปี 1951 ก็ได้เปลี่ยนเป็น “รัฐกะยา” ตามรัฐธรรมนูญ ว่ากันว่ารัฐนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยอังวะ แต่ไม่สามารถหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มายืนยันได้ แต่ที่พบหลักฐานชัดเจนก็คือในยุคของราชวงศ์สุดท้ายของเมียนมา รัฐเหล่านี้ตั้งอยู่ทางใต้ของรัฐฉาน และถูกปกครองโดยเจ้าฟ้าไทยใหญ่ ประกอบด้วย 2 เขต คือ “จังหวัดลอยก่อ” (Loikaw) และ “จังหวัดบอละแค” (Bawlake) 7 อำเภอ โดยในเขตจังหวัดลอยก่อ (Loikaw) ประกอบด้วย อำเภอลอยก่อ (Loikaw), อำเภอดี่มอโซ (Dmore Soe) อำเภอพะยูโซ (Flu Soe) และอำเภอชาตอ (Shar Taw) ในตำบลBawlake และในเขตจังหวัดบอละแค (Bawlake) ประกอบด้วยอำเภอบอละแค (Bawlake) อำเภอยว่าติ้ด (Ywar Thit) อำเภอผาซอง (Phar Song) และอำเภอแหม่แซะ (Mel Sel) ถึงแม้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำลายความสวยงามของรัฐกะยาได้เลย

ลอยก่อ (Loikaw)

 

ลอยก่อ (Loikaw) เป็นเมืองหลวงของรัฐกะยา และก่อตั้งโดยโลงตี่ริ (Lone Thiri) ในเดือนพฤษภาคม ปี 1838 ดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวกะยาหลากกลายเผ่าพันธุ์ โดยพวกเขาต่างมีประเพณี วัฒนธรรม และภาษาของตนเอง ชื่อเดิมของลอยก่อ (Loikaw) คือ “สี่ ยิ๊ ด่อ” (Si Yi Don) ความหมายในภาษากะยา คือ เป็นเมืองของตี่ริ (Thiri)  เมื่อชาติพันธุ์ฉานได้เขามาอยู่อาศัยในบริเวณนี้ พวกเขาตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า “ลอยก่อ” (Loikaw)  เพราะว่าเป็นดินแดนที่อยู่ใกล้กับภูเขาทอง โดยคำว่า “ลอย” (Loi) หมายถึง ภูเขา และคำว่า “ก่อ” (Kaw) หมายถึง การอยู่เดียว ดังนั้นความหมายของคำนี้จึงหมายถึง ภูเขาที่อยู่แห่งเดียวกัน ในเดือนมีนาคม ปี 1900ชื่อของเมืองลอยก่อ (Loikaw) ได้เปลี่ยนอีกครั้งเป็น “กั่น ต่า ระ วะ ดี”  (Kantarawadi) และภายหลังก็เปลี่ยนกับมาเป็นลอยก่อ (Loikaw) เช่นเดิม ทั้งนี้ ในรัฐกะยากลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ร่วมกันมากมาย ได้แก่ กะเรนนี หรือ กะยา (Karenni / Kayah) กะยั่น หรือ ป้ะด่าว (Kayan / Padaung) กะยั่น หรือ ละทะ (Kayan / Lahta) กะยอ (Ka Yaw) ยีนบ่อ (Yinbaw) ยีนตะแล () เก่โค่ (Geko) เก่บา (Geba) กะยาโหม่นุ หรือ มะนุมะนอ (Manumanaw) เป็นต้น

จะไปเทยี่วทไี่หน

รัฐกะยามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย และแต่ละสถานที่ล้วนมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

 

วนัที่หนึ่ง
ถ า้จั๊ต (Kyat)

ถ้ำจั๊ต (Kyat) เป็นสถานที่ที่น่าสนใจที่คุณสามารถเที่ยวชมและเรียนรู้ตำนานของที่ได้ หากเดินทางด้วยรถยนจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจากเมืองลอยก่อเพื่อเดินทางไปที่ถ้ำจั๊ต (Kyat) ช่วงนี้ถ้ำจั๊ต (Kyat) กำลังได้รับความสนใจเนื่องจากภายในถ้ำมีโลงไม้สักอยู่ โดยมีสมมติฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับประวัติถ้ำมากมาย แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า ถ้ำแห่งนี้มาความเป็นมาอย่างไร บางคนเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นโลงศพที่แสดงถึงความมั่งคั่งของเผ่ากะยาโบราณ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังกล่าวอีกว่าชาวกะยาเคยฝังเครื่องประดับของตนพร้อมด้วยคนตายลงในโลงไม้และนำมาไว้ที่ถ้ำแห่งนี้ หรือบางคนก็กล่าวว่า สิ่งของเหล่านั้นไม่ใช้โลงศพ แต่เป็นเรือแคนนูของทหารญี่ปุ่น มันอาจจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับถ้ำนี้มากมาย และไม่มีอะไรชัดเจนที่จะสามารถอธิบายความเป็นมาของที่นี่ได้ และคำตอบก็อาจจะฝังอยู่ในโลงศพ ทางเข้าออก ตามผนังถ้ำ หรือบันไดทางเข้าสู่ถ้ำก็ได้ บรรยากาศโดยรอบระหว่างการเดินทางไปยังถ้ำนั้นสวยงามมาก ระหว่างทางเต็มไปด้วยด้วยดอกไม้ และมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามและน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งแสงไฟจากด้านนอกของถ้ำ และความมืดภายในถ้ำ จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น แต่คุณควรระวังงูและแมงป่องในถ้ำด้วย




วนัทสี่อง
ลอปิต๊ะ

ปัจจุบันนี้ ลอปิต๊ะ ไม่ได้เพียงแต่เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา แต่บริเวณโดยรอบของโรงงานยังเต็มด้วยความงามของธรรมชาติ โรงงามถูกสร้างบนลำน้ำบีลู (Be Luu) และที่แห่งนี้ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่ง โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งที่ 1 และ 2 เป็นของรัฐบาล แห่งที่ 3 เป็นโรงงานในเครือชเว่ต่าว (Shwe Taung) ลอปิต๊ะ คือโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งที่ 1 สร้างใน ปี 1987 มีอายุ 27 ปีแล้ว โรงงานแห่งนี้สามารถทำงานได้อย่างอิสระ ไม่เกี่ยวเนื่องกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งที่ 2 และ 3 ถ้าคุณหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ลอปิต๊ะ คุณจะพบว่าโรงงานทำให้เกิดการจัดเก็บน้ำในเขื่อนโม บแย (Moe Byae) และมันถูกสร้างอย่างระมัดระวังไม่ก่อให้เกิดผลเสียกับธรรมชาติ หากถ้าคุณอยากไปเที่ยวที่นั่น คุณจะต้องขออนุญาตจากทหารที่อยู่ตรงข้ามกับเจดีย์มโย๊ะ นาม (Myo Nam) โดยต้องมีสำเนาของบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักฐาน

เมื่อคุณได้รับอนุญาต คุณสามารถขออนุญาตเป็นครั้งที่ 2 โดยการแสดงเอกสารสิทธิก่อนหน้านี้ที่ประตู ลอปิต๊ะแห่งที่ 2 เมื่อคุณใกล้ถึงโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งที่ 2 คุณสามารถเข้าไปเที่ยวกับโดยการแสดงเอกสารสิทธิ์ ที่นั่นคุณสามารถขึ้นไปบนจุดชมวิวได้ เมื่อคุณลงมาจากด้านบนระดับน้ำทะเล 4,000 ฟุต คุณก็จะมาถึงโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งที่ 3 ใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาที ถนนเส้นนี้เป็นถนนบนภูเขา และแคบมาก ดังนั้น คุณต้องระมัดระวังในการขับรถ เมื่อคุณถึงที่นั่น อย่าลืมถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกในการเยี่ยมชมของคุณ





เจดีย์ต่าว แกว (Taung Kwe)

เจดีย์ต่าว แกว (Taung Kwe) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองลอยก่อ Loikaw ตี่ริมิงกะลา (Thiri Mingala) หรือเจดีย์ต่าว แกว (Taung Kwe)  และมีชื่อเรียกในภาษากะยาว่า “ผ่อ มแย” (Paw Maw) เป็นภูเขาที่มีสร้างเจดีย์ไว้บนยอดเขา 9 องค์ ได้แก่ ปยี โลง ชาน ต่า (Pyae Lone Chan Thar) ชเวแย็กต่าว (Shwe Yat Taung) ชเวหยิ่นเอ (Shwe Yin Aye) เจ้าตั่นปั่น (Kyaut Than Van)  อ่าวต่อหมู่ (Aung  Taw Mu) ซุตาวปยิ๊ (Su Taung Pyae) เอ้าไจ้ทีโย (Aunt Kyait Hti Yoe) และ ชเวปยี่เอ (Shwe Pyae Aye)  คุณสามารถชมความสวยงามของเมืองจากด้านบนเจดีย์ต่าว แกว (Taung Kwe) ได้ เจดีย์แห่งนี้มีความสูง 387 ฟุต เป็นเจดีย์อยู่ในกลางเมือง ทำให้คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวได้สะดวก โดยคุณสามารถขี่จักรยานจากโรงแรมเพื่อไปเที่ยวได้ และสายลมเย็น ๆ ในช่วงเช้าจะทำไห้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น






วนัท ี่2

เมืองดีมอโซ (Dmore Soe) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,982 ฟุต ความหมายของคำว่า “ดี่” หมายถึง สายสะดือ คำว่า “มอ” (more) หมายถึง ท้องฟ้า และคำว่า “โซ” (Soe) หมายถึง ภูเขา ดังนั้น ในภาษากะยา “ดีมอโซ” (Dmore Soe) จึงหมายถึง สายสะดือที่เชื่อมโยงท้องฟ้าและภูเขา โดยชื่อนี้ถูกกำหนดขึ้นในปี 1962  ในเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ คือ ตลาดดีมอโซ (Dmore Soe) เขื่อนงเวต่าว (Ngwe Taung) ทะเลสาบทีปวิ้น (Hti Pwunt) และ ทะเลสาบ 7 ชั้น


ตลาดดีมอโซ (Dmore Soe)

ตลาดดีมอโซ (Dmore Soe)  ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1972 และอีกไม่นานก็จะมีการฉลองครบรอบ 50 ปีแล้ว ตลาดแห่งนี้จะเปิดแค่ 3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ และ วันอาทิตย์ คุณสามารถซื้อสินค้าพื้นบ้าน เช่น เหล้าอุ น้ำผึ้ง ไส้กรอก เนื้อสด และเครื่องมือต่าง ๆ  บางคนพูดว่าที่เป็นตลาดที่ดูน้อยแต่ดี นอกจากนี้ คุณสามารถซื้อพืชผักราคาถูกได้ที่นี่ ที่สำคัญ อย่าลืมให้ลองดื่มเหล้าอุ (Kaung Yae) ด้วยนะ






หมู่บ้านปั่น แป๊ก (Pan Pet)

หมู่บ้านต่างๆ ในกะยา เชื่อว่า พวกเขา คือ เจ้าแห่งภูเขา โดยชื่อเดิมของพวกเขา คือ “กะยาน” (Kan Yan) หมายถึง ชนเผ่าที่เป็นที่อยู่อาศัยในที่เดียวอย่างถาวร เมื่อเวลาไปนานแล้ว จากชื่อเดิม “กะยาน” (Kan Yan) ก็เปลี่ยนเป็น “กะยา” (Kayah) บางครั้งก็ถูกเรียกว่า “ป้ะด่าว” (Padaung) ซึ่งพวกเขาไม่ชอบชื่อนี้มาก ๆ ต้นกำเนิดป้ะด่าว (Padaung) มาจาก  “ปั้ดต่าว” (Pa daunt) ที่เป็นภาษาฉาน หมายถึง ผู้ที่สวมแหวนคอ พวกเขาเรียกตัวเองว่า “กาว ข่าว โด” (Kung Kaungdoe) หมายถึง เจ้าแห่งภูเขา  หมู่บ้านกะยา มี 4 กลุ่ม ในหมู่บ้านปั่น แป๊ก (Pan Pet) กลุ่มกะยานละฮี ถูกเรียกว่า กะยาภาคใต้ เพราะว่า พวกเขาย้ายมาจากภาคใต้ ผู้หญิงกะยามีคอที่ยาวมาก ผู้หญิงบางคนที่มีมากกว่าอายุ 50 ปี จะใส่ขดลวดทองเหลือง 26 วง ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 2 เป๊ะต่า (ประมาณ 3.2 กิโลกรัม) มีตำนานเกี่ยวกับเกี่ยวกับการใส่ห่วงทองเหลืองของชาวกะยา ก็คือ ในช่วงที่รัฐฉานมีอำนาจ ผู้นำรัฐฉานได้มอบขดทองเหลืองให้ของขวัญแก่ชาวกะยา ชาวกะยาจึงใช้มันเป็นเครื่องประดับและเงิน ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษา สังคม ประเพณีกะยานได้ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถช้อปปิ้งที่ร้านค้าเล็ก ๆ ซึ่งเปิดตามบ้านของพวกเขาเอง และสามารถถ่ายรูปกับพวกเขาได้ แต่จะไม่ค่อยพบกับเด็กชาวกะยาน เพราะพวกเขาไปทำงานที่ประเทศไทย

เขื่อนงเวต่าว (Ngwe Taung)

เขื่อนงเวต่าว (Ngwe Taung) เป็นเขื่อนดินซึ่งสร้างขึ้นในปี 1962 และถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับภูมิภาค เขื่อนแห่งนี้ถูกเรียกว่า เขื่อนงเวต่าว (Ngwe Taung) เพราะว่าเขื่อนอยู่ใกล้ระหว่างภูเขาทอง ภูเขาเงิน ภูเขาทองเหลือง ภูเขารัตมณี รวมทังหมด 7 ลูก ชาวฉาน เรียกที่นี่ว่า “ลอย เงง” (Loi Ngam) คำว่า “ลอย” (Loi) หมายถึง ภูเขา และคำว่า “เงง” (Ngam) หมายถึง ทอง โดยคุณสามารถเห็นเงาของภูเขาทอง ภูเขาเงิน ภูเขารัตมณีได้ในเขื่อน เมื่อมองดูแล้วทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูรูปเขียนที่สวยงาม ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่กำลังเงียบสงบ

ทะเลสาบทปีวนิ้ (Hti Pwunt)

สถานที่แห่งนี้คุณสามารถพบกับหาดทรายที่น่าอัศจรรย์ เพราะหาดทรายที่นี่ก่อตัวเป็นรูปร่ม ทะเลสาบทีปวิ้น (Hti Pwunt) อยู่ห่างจากเมืองลอยก่อประมาณ 8 ไมล์ ในแง่ของธรณีวิทยา ทะเลสาบทีปวิ้น (Hti Pwunt)  คือ เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว แต่ชาวกะยาเชื่อว่าที่นั่น คือ สระโบกขรณี ซึ่งเกี่ยวโยงกับกินรี 7 ตน ที่เป็นครึ่งสัตว์ครึ่งมนุษย์ และมีความเมตตา บางคนเชื่อว่ามันเป็นสถานที่ที่เจ้าชายตุ๊ดะนะ (Thu Da Nu) และดเวแหม่น่อ (Dwe Mel Naw) อาศัยอยู่ โดยพวกเขาให้คุณค่ากับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มาก โดยทั่วไปทรายจะถูกพัดให้เกิดเป็นรูปทรงร่มในวันพระจันทร์เต็มดวง และบางคนที่ศรัทธาได้สร้างศาลไว้ที่นั่น

 

ทะเลสาบ 7 ช้ัน

ทะเลสาบ 7 ชั้น เป็นสถานที่จากเทพนิยายที่มีชื่อเสียงของกษัตริย์ เจ้าชายตุ๊ดะนะ (Thu Da Nu) และภรรยาของเขาซึ่งเป็นกินรี ทะเลสาบแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นคุณจะไม่สามารถมองเห็นบริเวณทั้งหมดได้  ถ้าคุณอยากดูทะเลสาบให้ทั่วบริเวณพร้อม ๆ คุณจะทำได้เฉพาะการดูแผนที่เท่านั้น การดูแผนที่อาจจะทำให้คุณเห็นภาพทั้งหมดของทะเลสาบ 7 ชั้น บรรยากาศของทะเลสาบเงียบสงบเสมือนดึงดูดให้เทวดาอยากอาศัยอยู่ที่นี่  และเป็นเหมือนสวรรค์ที่บนโลกมนุษย์  ชื่อของทะเลสาบ 7 ชั้น คือ Hate Phoe Kha Yar, Phara Mo So Lae, Nay Kuu, Khayaw May, Boe Myar Htae Awe, Htae Doo Kuu  และ J Yae Htae Awe มีตำนานกล่าวว่า เมื่อนานมาแล้ว เจ้าชายได้ช่วยผู้คนจากปัญหาขาดแคลนน้ำ  โดยเจ้าชายแกล้งทำเป็นว่าเขาตกปลากับไม้ไผ่และผ้า ในไม่ช้า น้ำไหลมารวมกันเป็นจำนวนมากและกลายเป็นทะเลสาบใหญ่ ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องนี้ก็สามารถปฏิเสธได้ แต่ว่าทุกคนไม่สามารถปฏิเสธความสวยงามของทะเลสาบได้แน่นอน

 

พระราชวงัฮ่อ

พระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) อยู่ที่ ย่านมิงกะลา (Mingalar) เมืองลอยก่อ รัฐกะยา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  พระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) หลายแห่งที่รัฐกะยาถูกทำลาย แต่พระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) ยังคงหลงเหลืออยู่ พระราชวังแห่งนี้จึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมสำหรับชาวกะยา พระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) สร้างเมืองซอโหล่ง (Saw Lon) แต่ตอนนี้ถูกย้ายไปที่เมืองลอยก่อ เพราะว่าปัญหาขนส่งในปี พ.ศ. 1912 โดยพวกเขามีการจัดเตรียมฉลองพิธีเปิดให้พระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) แต่เมื่อผู้นำเสียชีวิต ลูกชายและลูกสาวของเขาได้ยอมรับพระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) ในปี 1994 โดยพวกเขาบริจาคอาคารพระราชวังฮ่อ (Kantarawadi) เป็นวัดให้ศาสนาพัฒนา ดังนั้นคุณไปเที่ยวที่นั่นได้



สถานที่ทั้งหมดที่แนะนำไปนั้น ใช้เวลาในการท่องเที่ยว  2 วัน แต่หากคุณมีวันหยุดมากขึ้น คุณสามารถเที่ยวภูเขาลแว พนาน (Lweal Pha Lan) ได้

ภูเขาลแว พนาน (Lweal Pha Lan)


ภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงในรัฐกะยา อยู่ใกล้กับหมู่บ้านคอบ่า (Kaw bar)  อำเภอพะยูโซ (Flu Soe) เมื่อช้างเผือกเสียชีวิตที่นั่น คนเลยพูดต่อ ๆ กันว่า ภูเขานี้เป็นภูเขาช้างเผือก โดยสีของภูเขาจะเปลี่ยนไปตามแสงแดด และมันจะทำให้คุณรู้สึกความสุข เพราะสามารถชมความสวยงามยามเช้า และเวลาพระอาทิตย์ตกได้ แต่ว่าในตอนบ่ายที่นี่ไม่ค่อยสวย เพราะว่าอากาศร้อน คุณควรสังเกตว่า คุณควรใช้เวลามากน้อยในถ่ายรูปที่ริมหน้าผา และโปรดพกครีมกันแดดมาด้วย


อากาศจะร้อนมากเลยทำให้ไม่เหมาะที่จะไปที่นั่นในตอนกลางวัน ดังนั้น ควรไปตั้งแต่เช้า หรือเลือกที่จะไปตอนเย็นก็จะโอเคกว่า ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างทางจากลอยก่อ มีฟาร์มและไร่เยอะแยะมากมาย เช่น ส้ม และ ชาเขียว ในระหว่างการเดินทางฉันก็คิดบางอย่างขึ้นมาเจ้าชายตุ๊ดะนะ (Thu Da Nu) และกินรีดเวแหม่น่อ (Dwe Mel Naw) อาจเคยมาที่นี่ พวกเขาอาจจะไปที่ทะเลสาบ 7 ชั้น หากคุณสามารถใช้เวลาและเที่ยวชมธรรมชาติก็จะดี เพราะพวกเขาได้มีกระท่อมไว้สำหรับพักค้างคืน ราคาของกระท่อมก็สมเหตุสมผลอยู่นะ และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 80,000 จั๊ต หรือ 100,000 จั๊ต แต่เนื่องด้วยดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยกองกำลังของเผ่า ดังนั้น คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับของพวกเขาอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ คุณยังสามารถไปเที่ยวถ้ำทีปะนู (Hti Pa Nuu) ซึ่งเป็นหนึ่งในถ้ำที่ยาวที่สุดในเมียนมาได้ แต่เส้นทางที่ไปนั้นยากลำบากมาก โดยคุณต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวันกว่าจะไปถึงที่นั่น

ไปอย่างไร

ถ้าคุณนั่งรถจากย่างกุ้ง คุณสามารถไปติดต่อได้ที่คิวรถ เช่น Thein Than Ku htae, Myo Sat Thit, Shwe Kayah และThan Myan Thu การเดินทางจะใช้เวลานานถึง 13 ชั่วโมง ถ้าคุณนั่งรถจากมัณฑะเลย์คุณสามารถไปติดต่อได้ที่คิวรถ เช่น Thein Than Ku htae,  Myo Sat Thit และ Shwe Yazar โดยจะใช้เวลาในการเดินทาง 10 ชั่วโมง ค่ารถเป็น 10,000 จั๊ต หรือ 20,000 จั๊ต ถ้าคุณอยากนั่งบิน ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 70 ดอลล่าร์ แต่ต้องดูตารางบินอีกครั้ง เพราะเป็นไปตามสายการบินกำหนด หากคุณอยากไปชมทิวทัศน์ในเมืองลอยก่อ มีรถปรับอากาศซึ่งจัดโดยโรงแรม แต่ไม่ได้หมายความรถเป็นของของโรงแรม พวกเขาแค่ประสานงานกับคนขับรถให้ ถ้าคุณต้องการใช้รถทุกวัน ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 80,000 จั๊ต

 

พกัที่ไหน

สำหรับผู้ที่ชอบที่พักราคาประหยัด เราอยากแนะนำโรงแรม Amazing Box และ โรงแรม Mya Palace สองแห่งนี้เป็นสถานที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบที่พักราคาประหยัดและบริการที่ดี ที่นี่มีอาหารเช้า ที่หลากหลายและตั้งอยู่ใจกลางเมือง คุณเดินเพียง 5 นาที ก็ถึงเจดีย์ต่าวแกว (TaungKwe) แล้ว  การบริการดีมากกว่าโรงแรมอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน โรงแรมอื่น ๆ ที่ให้บริการในราคาที่เหมาะสม ได้แก่ โรงแรม Loikaw princess โรงแรม Nature Land Hotel และ โรงแรม Three Seasons Hotel โรงแรมที่มีชื่อเสียง ได้แก่ โรงแรมHotel Loikaw โรงแรม Gold Hotel และ โรงแรม Green Leaf ค่าห้องพักอยู่ที่ประมาณ 40000 จั๊ต หากคุณต้องการพักในโรงแรมสุดหรูก็มีโรงแรมKeinnara Loikaw โรงแรมKayah Resort โรงแรมDemoso Lodge โรงแรมLoikaw Lodge by the Lake จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100 ดอลล่าร์



[Related Travel Blog]: https://mingalago.com/en/interest/detail/amazing-box

กนิอะไรดี

คุณสามารถประทานอาหารเมียนมาได้ที่ร้าน Shwe Lat Yar คุณสามารถทานได้มากเท่าที่คุณต้องการ แต่มีราคาเพียง 4000 จั๊ตเท่านั้น ถ้าคุณอยากทานอาหารตะวันตกก็สามารถหาได้ที่เมืองลอยก่อ ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถรับประทานอาหาร และเดินเล่นบนฝั่งของทะเลสาบหน่าว ยา (Naung Yar Lake) ที่นี่มีพ่อค้าแม่ค้าเยอะแยะมากมาย คุณสามารถทานเนื้อย่าง ปิ้งย่างดี ๆ ที่หน้าโรงแรม Myat Nan Daw ส่วนร้านค้ายอดนิยมอื่น ๆ ที่ให้บริการอาหารอร่อย ๆ ก็มีมากมาย นอกจากนี้ คุณสามารถทานอาหารได้แถว ๆ เจดีย์มโย๊ะ นาน (Myoe Nan) เพราะที่นั่นมีร้านขายอาหารหลากหลายประเภท หรือที่อำเภอดีมอโซ (Dmore Soe) คุณก็สามารถทานอาหารกลางวันที่ได้ที่ Marco Polo ที่ร้านแห่งนี้นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ยังมีการตกแต่งร้านได้น่าสนใจมาก และคุณก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ โดยมีภูเขาเป็นฉากหลังได้อย่างงดงาม


รายละเอียดที่อธิบายไปนั้น เพียงพอสำหรับการเดินทางสองวัน หากคุณต้องการไปเที่ยวที่อื่นเพิ่มเติมคุณสามารถไปได้ที่ภูเขาลแว พนาน (Lwel Pha Lan) และหมู่บ้านแถ่โข่ (Htel Kho) ในวันถัดไป หากคุณไปที่นั่นในฤดูฝน สิ่งหนึ่งที่อยากเตือนให้คุณเตรียมมาด้วย คือ ร่ม ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องความปลอดภัยในขณะที่ไปเที่ยวรัฐกะยาเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น คุณควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ไม่ว่าคุณจะทำอะไร หรือไปที่ไหน ฉันต้องการขอให้คุณทิ้งขยะลงถัง ถ้าคุณทำได้ก็เท่ากับว่าคุณมีส่วนร่วมในการรักษาสภาพแวดล้อม และธรรมชาติ เมื่อคุณอ่านอ่านบทความนี้ ฉันคิดว่า คุณสามารถจัดทริปไปเที่ยวรัฐกะยา และสามารถเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆได้อย่างมีความสุข ขอบคุณมากที่สนใจบทความของฉัน

คุณชอบเนื้อหานี้หรือไม่?
หากคุณมีบัญชีของผู้ใช้ที่ทำให้เป็นปลาแมกเคอเรลคุณสามารถเพิ่มบุ๊กมาร์กลงใน mypage ของคุณได้

รีวิว


ความสุขที่เยี่ยมยอด ณ ดินแดนแห่ง Ngwe Taung Pyay
0 / 5 (0 รีวิวจากผู้ใช้)
สิ่งที่คนพูด

แสดงความคิดเห็นจาก

สมาชิกเข้าสู่ระบบและปล่อยให้คะแนนของคุณ

หากต้องการแสดงความคิดเห็นโปรดเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียนสมาชิก

คุณมีบัญชีของผู้ใช้ MingalaGo หรือไม่?

personLogin

รับบัญชีของผู้ใช้ MingalaGo!

personลง ทะเบียน