มาลองขี่ม้ากันเถอะ
2020-01-16edit MyoMinThuชีวิตนั้นสั้น
ทุก ๆ สิ่งในชีวิตสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผมต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่ผมยังมีชีวิตและหายใจอยู่ มันน่าเศร้าหากเราต้องสูญเสียบางสิ่งหรือจบลงด้วยชีวิตโดยที่ไม่มีความหมายอะไรเลย เมื่อผมอยู่ในหย่าวชเว่ (NyaungShwe) ผมตัดสินใจว่า ผมควรเรียนรู้วิธีขี่ม้าให้เชี่ยวชาญ คนในสมัยโบราณส่วนใหญ่ใช้ม้าเพื่อเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกหนึ่ง มันเป็นรูปแบบการคมนาคมก่อนยุคยานยนต์
เมื่อม้าหยุดในสถานที่ที่เหมาะสม คุณควรจะผูกม้ากับต้นไม้ให้แน่น หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อย คุณก็สามารถเดินกลับมาขี่ม้าได้อีกครั้ง พวกเขาเดินทางรอบ ๆ หมู่บ้านด้วยวิธีนี้
ม้ามีความหมายมากกว่าการเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง และพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ในต่างประเทศม้าถือได้ว่าเป็นสัตว์ในราชวงศ์ มีการใช้การขี่ม้าในงานเฉลิมฉลอง และผมเป็นโค้ชขี่ม้าคนแรกที่ Yangon Riding Club เมื่อผมมาที่หย่าวชเว่ (NyaungShwe) อีกครั้ง ผมจึงตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมที่ Inlay Horse Club ทันที
Inlay Horse Club อยู่ห่างจากเมืองหย่าวชเว่ (NyaungShwe) ประมาณ 15 นาที เมื่อผมไปถึงที่นั่น ผมรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าคอกม้าธรรมดา ๆ มันเป็นเหมือนรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่คุณสามารถมาพักผ่อนเพื่อคลายเครียดได้ทั้งวัน อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถพักค้างคืนที่นี่ได้ หากมีใครไปค้างคืนที่นั่นคงจะโดนพี่ Yae Aye และ พี่ Ku Ku Ha Ha ดุแน่ ๆ
เมื่อผมไปถึงผมจะต้องลองดื่มโยเกิร์ตแก้วมังกรอันโด่งดังของที่นี่ ผมจะพลาดโอกาสในการลิ้มรสของอร่อย ๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน หลังจากนั้น ก็เดินไปเลือกแพ็คเกจทัวร์สำหรับขี่ม้าให้เรียบร้อย โดยแพ็คเกจที่ผมเลือกก็คือ "Ride and Walk" และกิจกรรมนี้ก็จะเริ่มในตอน 7 โมงเช้า
สำหรับการขี่ม้าในครั้งนี้ พวกเราจะพักรับประทานอาหารกลางวันในหมู่บ้าน และหากคุณไม่มีประสบการณ์การขี่ม้าก็ไม่เป็นไร ผู้ฝึกสอนจะสอนคุณด้วยม้าที่คุณขี่ คุณจะใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาทีในการรู้พื้นฐานการขี่ม้าที่ดี
วิธีการขี่ม้า
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จะต้องมีการควบคุมอารมณ์ของม้า เพราะม้าได้รับอิทธิพลทางความคิดจากผู้ที่กำลังขี่มันอยู่ ไม่เหมือนกับของสุนัขหรือแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยง
เมื่อคุณขึ้นขี่ม้าคุณควรยอมในสิ่งที่ม้าต้องการ คุณต้องเตือนให้ม้าของคุณไม่กินหญ้าแห้งโดยการดึงเชือกที่ติดอยู่บนหัวม้า ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ม้าของคุณจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป และไม่ยอมกินอาหารในคอกม้า จะทำให้เขาไม่สามารถออกไปเดินเล่นได้ ดังนั้น คุณต้องควบคุมม้าของคุณให้ดี และไม่ปฏิบัติต่อมันในลักษณะเดียวกับที่คุณควบคุมหรือเล่นกับสุนัขของคุณ (มันอาจจะเป็นแค่มุมมองของผมคนเดียว)
การเดินทาง
เมื่อคุณเชี่ยวชาญการขี่ม้าขั้นพื้นฐานมากขึ้น ตอนนี้คุณก็สามารถขี่ม้าออกไปข้างนอก และขี่เข้าไปในทุ่งได้ คุณไม่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะผู้ฝึกสอนม้าได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี มันไม่มีอะไรที่ให้ความรู้ดีเหมือนกับหมวกคาวบอยที่อยู่บนหัวของม้า และการขี่ม้าขึ้นเขาที่หย่าวชเว่ (NyaungShwe) ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ผมได้แสดงออกแบบคาวบอยจากศตวรรษที่ 19 หลาย ๆ คนที่เคยไปที่นั่นจะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้แน่นอน
จากถนนดินแดง ทิวทัศน์ข้างทาง และบนภูเขาสวยงามมาก บนนั้นคุณจะมองทะเลสาบอินเล ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นเมื่อผมดูวิวจากที่นี่
ผมรู้สึกสัมผัสได้ถึงลมอ่อน ๆ แต่เย็นที่พัดผ่านภูเขามา แดดก็ไม่ร้อนเกินไป ดอกไม้ในป่าเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคุณสามารถดูได้จากในรูป
ผมยังได้เรียนรู้ว่าอะไร คือ ความแตกต่างระหว่างการขี่ม้ากลางแจ้ง และการขี่ม้าในร่ม ดังนั้น ผมจึงคิดว่า "ผมจะมาขี่ม้าที่อินเลบ่อย ๆ แน่นอน"
หลังจากขี่ม้ามาถึงจุดชมวิว พวกเราได้ดูวิวและพักผ่อนกันนิดหน่อย จุดชมวิวแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีมากสำหรับการถ่ายภาพ
ในแพ็คเกจทัวร์นี้ รวมค่าช่างภาพไว้ด้วยนะ พวกเราก็ได้มาแวะที่ ViewPoint และขี่ม้าต่อไปที่บริเวณรับประทานอาหารกลางวันซึ่งบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ระหว่างทาง
บริเวณนั้น มีกิจการยาสูบขนาดเล็กอยู่ใกล้ ๆ ชั้นล่างเลยเต็มไปด้วยกลิ่นของยาสูบ แต่ห้องสำหรับรับประทานอาหารตั้งอยู่ชั้นบน พวกเขาต้อนรับแขกอย่างอบอุ่นด้วยภาษาฉาน พวกเขาเป็นมิตรและอบอุ่นมาก มันช่างเป็นบ้านที่น่ารักจริง ๆ
ข้าวร้อน ๆ และแกงกะหรี่จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าที่เราได้รับจากการขี่ม้าและเดินตลอดทั้งวัน พวกเราขอเติมอาหารกันถึง 2 ครั้ง
นี่คือความเสียหายทั้งหมด
ที่นี่เราสามารถล้างหน้าล้างตา และนอนพักได้ในเวลาสั้น ๆ หรือถ้าอยากจะลองบุหรี่ยาสูบแบบดั้งเดิมหรือแบบสำเร็จรูปบริเวณชั้นล่างก็ได้ แต่สำหรับผม ผมขอสูบบุหรี่ในยามว่างดีกว่า
ขากลับพวกเราขี่ม้าเข้าไปยังถนนในหมู่บ้านและผ่านเส้นทางป่า
พวกเราได้ยินเสียงนก และกระรอกบนต้นไม้ พวกมันมองเราด้วยดวงตาโต ๆ น่ารักมาก มันทำให้พวกเราลืมความเหนื่อยล้าในระหว่างการขี่ม้าในวันนี้หมดเลย ดอกไม้ป่าก็บานช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่เราไปเยี่ยมชมพอดี ทำให้มีดอกไม้สีเหลืองบานไปทั่วบริเวณนี้
นอกจากนี้ที่ Inlay Horse Club ยังบอกว่า พวกเขามีบริการต่าง ๆ มากมาย เช่น การฉลองแต่งงาน ผมอยากจะแนะนำว่า เมื่อคุณไปถึงหย่าวชเว่ (NyaungShwe) โปรดลองไปขี่ม้า คุณสามารถเรียนรู้ได้ ถ้าคุณไม่รู้วิธีขี่ม้า แม้ว่าคุณกลัวที่จะขี่ แต่อย่าปล่อยให้ตัวเองตายโดยไม่มีประสบการณ์และทักษะเหล่านี้ มันเหมือนคุณจะพลาดอะไรบางอย่าง ถ้าวันหนึ่งคุณต้องตายไปโดยไม่ได้รับรู้ถึงความสุขจากการขี่ม้า
รีวิว
แสดงความคิดเห็นจาก