ไปเยือนหมู่บ้านเผ่าชิน, มรัคอู
2018-09-25edit Mya Nandar
มรัคอูเป็นเมืองที่ฉันใฝ่ฝันจะไปเยือนมานานแล้ว ในเดือนธันวาคม ปี 2560 ฉันได้ตัดสินใจร่วมกรุ๊ปทัวร์ไปยังเมืองซิตตุ่ยและมรัคอู แน่ละ หัวหน้าทัวร์นำเราไปเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งในมรัคอู แต่ที่เป็นไฮไลท์ของทริปนี้ก็คือ การไปเยือนหมู่บ้านชนเผ่าชิน ไปดูผู้หญิงที่มีรอยสักบนใบหน้านั่นเอง
เรานั่งเรือจากมรัคอูไปตามแม่น้ำเลมโร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าจะถึงหมู่บ้านชิน ตามลำน้ำเราได้เห็นวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง มีการปลูกผักสวนครัวไว้บนตลิ่ง และแน่นอนว่ามีหมู่บ้านชาวประมง เราได้เห็นเรือหลายลำบรรทุกไม้ไผ่และไม้ฟืนเพื่อไปขายที่ตลาด ชาวบ้านลงมาซักผ้าและอาบน้ำในแม่น้ำ ฉันพยายามมองหาคนถือคนโทน้ำรูปน้ำเต้าซึ่งดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของมรัคอู แต่ก็ได้เห็นเพียงไกลๆ แม้แต่เลนส์ซูมของฉันก็ไม่อาจจับภาพเอาไว้ได้
เมื่อเรามาถึงยังหมู่บ้านชิน ก็ได้เครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำมะพร้าวอ่อน หวานหอมชื่นใจ และแล้วเมื่อเราอยากเข้าห้องน้ำ ก็พบว่าไม่มีห้องน้ำที่เหมาะสมที่ร้านขายของของชาวบ้าน พวกผู้ชายพากันหลบไป “รดน้ำต้นไม้” แถวๆแปลงผักสวนครัว ส่วนพวกผู้หญิง เราไม่มีทางเลือกอื่น เราต้องเดินเลาะไปตามตลิ่งที่เป็นโคลนลื่นๆ ไปยังห้องน้ำเล็กๆ ที่สร้างขึ้นชั่วคราวด้วยผ้าใบและไม่มีกุญแจ ฉันไม่ได้ถ่ายรูปห้องน้ำไว้เพราะว่ามือฉันไม่ว่าง มือหนึ่งจับประตูผ้าใบ อีกมือหนึ่งจับกางเกง
หลังจากอาหารกลางวันแบบปิกนิก เราเดินเท้าเข้าไปยังตัวหมู่บ้าน ฉันตื่นเต้นมากที่ได้เห็นหญิงเผ่าชินสักหน้าและผ้าทอของพวกหล่อน ฉันอยากจะซื้อผ้าคลุมไหล่ โสร่ง และย่าม แบบที่เคยเห็นในหนังสือนำเที่ยว แม่หญิงเผ่าชินคนแรกที่เข้ามาต้อนรับพวกเราถือหวีกล้วยมาและแจกให้เราคนละผล เธอบอกให้เรากินกล้วยและดื่มน้ำ และเข้าไปนั่งพักผ่อนในบ้านของเธอ ช่างมีไมตรีจริงๆ แต่ก่อนที่ฉันจะกินกล้วยหมดผล เธอก็นำย่ามและผ้าทอออกมาให้เราชมและขอให้ช่วยซื้อ ถึงแม้ว่าฉันตั้งใจจะมาอุดหนุนสินค้าพื้นเมือง แต่ราคามันแพงเกินไป ฉันจึงไม่ได้ซื้ออะไรจากเธอเลย เธอดูท่าทางผิดหวังมาก ฉันอยากจะเดินเข้าไปดูร้านอื่นๆ จึงเดินต่อไปในตามทางเดินในหมู่บ้าน
เราเดินผ่านกระท่อมไม้ไผ่หลังเล็กๆ ซึ่งมีเด็กๆ อาศัยอยู่ 12-13 คน แต่เราไม่เห็นมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเลย เด็กเหล่านี้สวมเสื้อผ้าสกปรกมอมแมมและดูเหมือนจะเป็นโรคขาดอาหาร เราซี้อขนมมาจากท่าเรือจึงนำมาแจกเด็กๆ พวกเขาดีใจมากที่ได้รับของแจก เด็กบางคนแกะถุงพลาสติกหรือห่อท้อฟฟี่ไม่เป็นเสียด้วยซ้ำ เราจึงต้องแกะให้ พวกเด็กๆกินขนมที่เราแจกให้อย่างรวดเร็วและทิ้งถุงพลาสติกเปล่าไว้เกลื่อนกลาด ฉันมองหาถังขยะแต่ก็ไม่พบสักใบ มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่เราเป็นผู้ทำให้หมู่บ้านที่บริสุทธิ์ต้องสกปรกไปด้วยของขวัญจากเมืองศิวิไลซ์ ฉันนำดินสอมาด้วยและอยากจะแจกให้เด็กๆ แต่ไกด์ท้องถิ่นบอกฉันว่าไม่ควรแจกเพราะเด็กเหล่านี้เขียนหนังสือไม่เป็น มันทำให้ฉันรู้สึกเศร้า
เราเดินสำรวจต่อไปในหมู่บ้านและได้เจอกับหญิงสักหน้าหลายคน แม้ว่าฉันจะอยากเจอพวกเธอด้วยตัวฉันเอง แต่เมื่อได้มาพบกับพวกเธอจริงๆ ฉันกลับรู้สึกไม่อยากถ่ายรูปกับพวกเธอสักเท่าไหร่ ฉันรู้สึกว่าเรามารบกวนวิถีชีวิตของพวกเขา เขาต้องมาต้อนรับเราและยอมถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวเพื่อแลกกับเงิน บางอย่างในหัวของฉันบอกฉันว่า “นี่ไม่ใช่สวนสัตว์” ฉันถ่ายรูปกับหญิงสักหน้าเพียงรูปเดียวเท่านั้นเพื่อเป็นหลักฐานว่าฉันได้มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ถึงแม้ว่าไกด์ของเราจะบอกว่าเราไม่ควรให้เงินแก่หญิงสักหน้าเหล่านี้ พวกเราบางคนก็ให้เงินทิปเล็กๆน้อยๆ เมื่อฉันกลับมาจากการเดินทาง ฉันถามตัวเองว่า “พวกเขาจะใช้เงินได้ยังไง” หมู่บ้านของพวกเขาอยู่ห่างไกลจากตลาดหรือตัวเมือง หรือความศิวิไลซ์
หญิงสาวเผ่าชินบางคนเข้ามามุงดูพวกเราราวกับว่าพวกเธอไม่เคยเห็นนักท่องเที่ยว เมื่อพวกเธอเข้ามาใกล้ๆ เราจึงได้สังเกตว่า มีอย่างน้อย 2-3 คนที่ตั้งครรภ์อยู่ พวกคุณแม่สาวๆเหล่านี้มีท่าทางเหนียมอายเมื่อเราถามถึงอายุของพวกเธอ ซึ่งพวกเธอมีอายุประมาณ 14-15 เท่านั้น บางคนอุ้มเด็กน้อยที่กำลังร้องโยเยไว้ในอ้อมกอด ของขวัญที่เราพอจะมีแจกให้พวกเธอได้ก็คือลูกอม มันเป็นความโง่ของฉันเองที่นำมีดโกนหนวดมาแจกชาวบ้านโดยที่ฉันนึกว่าพวกเขาจะชอบ อย่างไรก็ตาม เราได้พบพวกชาวบ้านผู้ชายน้อยมาก ชาวบ้านที่เราพบส่วนใหญ่เป็นพวกผู้หญิง เมื่อฉันยื่นมีดโกนหนวดให้หญิงคนหนึ่งและบอกเธอว่าให้เก็บไว้ให้สามีของเธอ เธอกลับส่งมีดโกนนั้นให้ลูกน้อยซึ่งยัดมันเข้าไปในปากทันที เราต้องอธิบายให้เธอทราบว่าเครื่องมือนี้มันอันตรายมากและไม่ควรให้เด็กถือ ฉันตระหนักว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรนำมันมาแจกเลย
เราเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้านจนถึงบ้านหลังสุดท้าย ก่อนที่เราจะกลับออกมา หญิงสักหน้ารูปร่างผอมบางคนหนึ่งจับแขนฉันไว้แล้วถามเป็นภาษาชินซึ่งฉันเดาว่าเธอหมายถึงว่า “คุณมียามาบ้างมั้ย“
หัวใจฉันหล่นวูบ ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลยว่าจริงๆแล้วพวกเขาต้องการอะไร ฉันรู้สึกแย่ที่ฉันไม่ได้พยายามที่จะหาข้อมูลของชาวบ้านมาอย่างเพียงพอก่อนที่จะเยือนพวกเขา เราควรนำสิ่งของที่พวกเขาต้องการจริงๆมาให้ ฉันถามหญิงคนนั้นว่า เธออยากได้ยาอะไร เธอบอกว่า ยาสามัญ เช่น ยาแก้ปวด แก้ไข้ ยาหม่อง หรือยาดม เธอดูเศร้าเมื่อฉันบอกว่าฉันไม่มียาใดๆติดตัวมาเลย ฉันเสียใจมาก จนกระทั่งบัดนี้ ฉันยังคงจำแววตาเศร้าๆของเธอได้
เมื่อเรากลับจากหมู่บ้านมายังเรือของเรา ฉันสังเกตเห็นเศษถุงพลาสติกและเปลือกลูกอมหล่นเกลื่อนตามทางเดิน ขยะเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายได้ไปอีกหลายปี ทำไมฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ฉันเองแหละที่เป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมที่สะอาดบริสุทธิ์ของหมู่บ้าน มันไม่ใช่ความผิดของชาวบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว
รีวิว

แสดงความคิดเห็นจาก